วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บทความแนวคิดทางธรรม เรื่อง "คุณค่าของเวลา"

 เป็นที่ยอมรับกันว่า เวลาเป็นสิ่งมีค่าและมีความสำคัญสำหรับชีวิตในฐานะเป็นต้นทุนที่จะต้องมีสำหรับประกอบกิจการงานต่าง ๆ และเป็นสาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ในทางธรรมะท่านจึงแสดงลักษณะของเวลาไว้ ๔ ประการ คือ
           ๑. ได้เท่ากันหมด ไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบกัน ในเรื่องเวลา สิ่งของอย่างอื่น เช่น ทรัพย์สินเงินทอง คนเราอาจเสาะแสวงหาได้ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความขยันและโอกาสของแต่ละคน แต่สำหรับเวลาได้รับมาเท่า ๆ กัน
           ๒. งดสะสมไว้ ตามปกติเมื่อเราได้ทรัพย์สินมา เราอาจจะใช้จ่ายส่วนหนึ่ง และเก็บออมไว้ใช้อีกส่วนหนึ่งได้ แต่เวลาที่ธรรมชาติให้มานั้น จะใช้ส่วนหนึ่งและเก็บสะสมไว้อีกส่วนหนึ่ง เช่นนี้หาได้ไม่ หากไม่ใช้ในวันนั้นแล้ว ก็เป็นอันว่าหมดไป
           ๓. ไม่อาจเรียกคืน การเรียกคืนอาจทำได้ในบางกรณี เช่น กรณีจ่ายภาษีเกิน เป็นต้น แต่เวลาที่เราได้รับนั้น เมื่อปล่อยให้ล่วงเลยไปแล้ว จะเรียกเวลานั้นกลับคืนมาเพื่อใช้ประโยชน์ในภายหลัง เช่นนี้ย่อมทำไม่ได้
           ๔. กลืนกินชีวิต การกลืนกินชีวิตของเวลานั้น มิใช่กลืนกินเฉพาะคนที่กาลเวลาอยากจะกินเท่านั้น แต่แท้จริงแล้ว เวลากลืนกินทุกชีวิตไม่มียกเว้น ไม่ว่าจะเป็นคนและสัตว์ รวมถึงวัตถุสิ่งของที่ไม่มีชีวิตด้วย เวลาจะกลืนกินจนหมดสิ้นโดยไม่เหลือ
           ดังนั้น ผู้ที่ตระหนักถึงคุณค่าของเวลา ควรใช้เวลาทำประโยชน์ให้ได้มากที่สุด และดำรงตนอยู่ด้วยความไม่ประมาทย่อมเป็นผู้มีความภาคภูมิใจในภายหลัง และมีความหวังในภายหน้า บุคคลเช่นนี้ถึงแม้จะต้องล่วงลับดับไปกับกาลเวลา แต่ชื่อเสียงก็ยังคงอยู่ ดังคำกล่าวที่ว่า "อันดีชั่วตัวตายเมื่อภายหลัง ชื่อก็ยังคงอยู่ไม่รู้หาย" นั่นเอง (ที่มา : ยศ.ทร.)