กรมการขนส่งทางบก ปรับปรุงประกาศ กำหนดระบบการทำงาน ประสิทธิภาพการทำงาน
การติดตั้ง หรือจำนวนของอุปกรณ์ส่องสว่างและอุปกรณ์แสงสัญญาณ
กรมการขนส่งทางบก
ได้ปรับปรุงประกาศ กำหนดระบบการทำงาน
ประสิทธิภาพการทำงาน การติดตั้ง
หรือจำนวนของอุปกรณ์ส่องสว่างและอุปกรณ์แสงสัญญาณที่อาจมีและใช้สำหรับรถ
พุทธศักราช ๒๕๕๕ ขึ้น
เพื่อให้การกำหนดอุปกรณ์ส่องสว่างและอุปกรณ์แสงสัญญาที่อาจมีและใช้สำหรับรถ
สามารถรองรับการพัฒนาของเทคโนโลยีการผลิตและออกแบบยานยนต์ให้มีความเหมาะสม
เกิดความปลอดภัยในการใช้งาน
และเป็นไปตามมาตรฐานสากล
การแก้ไขปรับปรุงประกาศดังกล่าว
มีสาระสำคัญ ดังนี้ กำหนดให้รถยนต์รับจ้างระหว่างจังหวัด
รถยนต์รับจ้าง
รถยนต์สี่ล้อเล็กรับจ้าง รถยนต์บริการ
และรถยนต์ส่วนบุคคล สามารถมีโคมไฟใช้งานกลางวัน
เพื่อเป็นอุปกรณ์ส่องสว่างและอุปกรณ์แสงสัญญาได้
ซึ่งเดิมกำหนดให้มีได้เฉพาะโคมไฟตัดหมอกด้านหน้าและด้านท้ายเท่านั้น
โดยโคมไฟใช้งานกลางวันต้องมีแสงขาวหรือเหลืองอ่อน จำนวน ๒
ดวง
ติดที่หน้ารถข้างซ้ายและข้างขวา มีระยะห่างไม่น้อยกว่า
๖๐ เซนติเมตร
สูงจากพื้นราบไม่น้อยกว่า ๒๕ เซนติเมตร แต่ไม่เกิน ๑.๓๕
เมตร โคมไฟแต่ละดวงจะต้องมีความเข้มของแสงส่องสว่างไม่เกิน
๑,๒๐๐ แคนเดลา นอกจากนี้
ยังกำหนดให้รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์สาธารณะ
สามารถมีและใช้โคมไฟด้านหน้ารถ
เป็นอุปกรณ์ส่องสว่างและอุปกรณ์แสงสัญญาณได้
โดยโคมไฟดังกล่าวต้องมีแสงขาวหรือเหลืองอ่อนมีทิศทางส่องสว่างไปด้านหน้า
จำนวน ๑ ดวง ติดที่กึ่งกลางหน้ารถ หรือจำนวน ๒ ดวง
ติดในแนวนอนระดับเดียวกันและห่างจากแนวกึ่งกลางหน้ารถเท่ากันทั้งสองข้าง
สูงจากพื้นราบไม่น้อยกว่า ๓๕ เซนติเมตร แต่ ไม่เกิน ๑.๒๐
เมตร
เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน
สำหรับผู้ที่ดัดแปลงไฟหน้าให้เป็นแสงสีอื่น
หรือทำให้มีความสว่างจ้ามากจนเกินไป
เมื่อนำไปใช้งานบนท้องถนนจะส่องเข้าตาผู้ขับขี่ที่สวนทางมาทำให้สายตาพร่า
มัวจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้
หากเจ้าของรถดัดแปลงอุปกรณ์ส่วนควบหรือเพิ่มเติมส่วนหนึ่งส่วนใดเข้าไป
จนก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจผู้อื่น
มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์
พุทธศักราช ๒๕๒๒ มาตรา ๑๒ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐
บาท (ที่มา
: กรมการขนส่งทางบก)