กรมการขนส่งทางบก ย้ำ ไม่มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร
หากเก็บเกินอัตราที่กำหนดมีโทษปรับไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท
กรมการขนส่งทางบก ยืนยัน
ไม่มีการปรับขึ้นค่าโดยสารรถประจำทาง ขสมก.และรถร่วมบริการแต่อย่างใด โดยรถประจำทาง
ขสมก.ยังคงเก็บในอัตรา ๗.๐๐ บาท และรถร่วมบริการเก็บอัตรา ๘ บาท
หากวิ่งช่วงระหว่างเวลา ๒๓.๐๐ น. - ๐๕.๐๐ น. เก็บเพิ่มอีก ๑.๕๐ บาท เหมือนเดิม
ทั้งนี้ จนกว่าราคาก๊าซ CNG ที่ผู้ประกอบการขนส่งต้องจ่ายสุทธิในราคา ๙.๕๐ บาท
ต่อกิโลกรัม จึงจะมีการปรับขึ้นอีก ๑ บาท สำหรับรถมินิบัส รถโดยสารขนาดเล็ก
และรถสองแถว มีการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง
ตั้งแต่วันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เป็นต้นมา โดยปรับอัตรารถมินิบัส จากราคา ๖.๕๐ บาท
เป็น ๘ บาท และหากวิ่งระหว่างเวลา ๒๓.๐๐ น. - ๐๕.๐๐ น. เก็บเพิ่มอีก ๑.๕๐ บาท
รถโดยสารขนาดเล็กและรถสองแถว ปรับจาก ๕.๕๐ บาท เป็น ๗ บาท
และหากวิ่งช่วงระหว่างเวลา ๒๒.๐๐ น. - ๐๕.๐๐ น. เก็บเพิ่มอีก ๒ บาท
ส่วนรถประจำทางกรุงเทพฯไปต่างจังหวัดและรถระหว่างจังหวัดที่วิ่งระยะทาง
๔๐ กิโลเมตรแรก ปรับขึ้นเพียงกิโลเมตรละ ๔ สตางค์, กิโลเมตรที่ ๔๐ - ๑๐๐
ปรับขึ้นอีกกิโลเมตรละ ๖ สตางค์, กิโลเมตรที่ ๑๐๐ - ๒๐๐ ปรับขึ้นกิโลเมตรละ ๗
สตางค์ และกิโลเมตรที่ ๒๐๐ ขึ้นไป ปรับขึ้นเพียงกิโลเมตรละ ๓
สตางค์
หากรถประจำทาง ขสมก.
รถร่วมบริการคันใดมีการฉวยโอกาสเรียกเก็บค่าโดยสารเกินอัตราที่กำหนด
จะมีความผิดตามมาตรา ๓๑ (๗) แห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พุทธศักราช ๒๕๒๒
มีบทลงโทษตามมาตรา ๑๓๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน ๕๐,๐๐๐ บาท
ซึ่งผู้ใช้บริการที่ถูกเรียกเก็บค่าโดยสารเกินสามารถแจ้งหรือร้องเรียนได้ที่
ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ ๑๕๘๔ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง โดยระบุหมายเลขทะเบียนรถ วัน
เวลา สถานที่ และเก็บตั๋วโดยสารที่เดินทางไว้
เพื่อความสะดวกในการติดตามผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายและเพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ
(ที่มา : ขสมก.)