วันอังคารที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2555

นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๕

นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๕ บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร
        ๒ เมษายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๔๐ น. นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๕ พร้อมกับรับฟังการบรรยายสรุปการฝึกกองทัพเรือ ฯ ณ เรือหลวงจักรีนฤเบศร บริเวณพื้นที่อ่าวไทย โดยมี พลเรือเอก สรุศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ให้การต้อนรับ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเข้ารับฟังการบรรยายสรุป และชมการฝึก ฯ บริเวณห้องควบคุมการบิน เรือหลวงจักรีนฤเบศร ประกอบด้วย การยิงอาวุธประจำเรือ โดยเรือหลวงปัตตานีและเรือหลวงนราธิวาส การยิงอาวุธปราบเรือดำน้ำ โดยเรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงสายบุรี การยิงอาวุธประจำอากาศยาน การฝึกปฏิบัติการทางเรือสาขาการปราบปรามโจรสลัด โดย เรือหลวงสิมิลันและเฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ ๒๑๒ และการรับส่งสิ่งของในทะเล โดยเรือหลวงจักรีนฤเบศรและเรือหลวงกระบุรี ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในสมุดเยี่ยม และรับมอบของที่ระลึกจากผู้บัญชาการทหารเรือ
กองทัพเรือ ได้ดำเนินการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๕ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ในห้วงการฝึกภาคสนาม/ทะเล เป็นการฝึกทดสอบการปฏิบัติการร่วมทั้งระดับหน่วยกำลังที่เข้าร่วมการฝึกและระดับกองทัพเรือ ณ บริเวณพื้นที่อ่าวไทย ซึ่งจะทำการฝึกไปจนถึงวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๕ การฝึกกองทัพเรือ เป็นการฝึกที่กองทัพเรือได้จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยได้บูรณาการการฝึกของหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือเข้าไว้ด้วยกัน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การประสานงานการปฏิบัติด้านการฝึกเป็นหนึ่งเดียว ด้วยการนำสาขาการปฏิบัติการต่าง ๆ ในส่วนของกำลังรบ และการปฏิบัติ/การสนับสนุนของกรมในส่วนบัญชาการ รวมทั้งส่วนยุทธบริการและส่วนการศึกษา ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันมาทำการฝึกภายใต้สถานการณ์ฝึกห้วงเวลาเดียวกันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยเน้นไปที่การทดสอบแผนเผชิญเหตุที่กองทัพเรือได้อนุมัติไว้แล้ว ตลอดจนเพื่อทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ โดยจัดการฝึกให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และนโยบายของกองทัพเรือ และทำการฝึกในลักษณะ "รบอย่างไร ฝึกอย่างนั้น" กล่าวคือ หน่วยที่จะต้องปฏิบัติภารกิจใดในสถานการณ์จริงให้ปฏิบัติภารกิจหน้าที่นั้นในสถานการณ์ฝึก
สำหรับการฝึกกองทัพเรือในปีนี้จัดขึ้น ตั้งแต่วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ โดยแบ่งการฝึกออกเป็น ๒ ส่วน คือ การฝึกปัญหาที่บังคับการ เป็นการฝึกทดสอบแนวความคิด การตัดสินใจตามกระบวนการวางแผนทางทหาร และการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศ โดยทำการฝึก ณ ที่ตั้งปกติ เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๕ และส่วนของการฝึกภาคสนาม/ทะเล เป็นการฝึกทดสอบการปฏิบัติการร่วม ทั้งระดับหน่วยกำลังที่เข้าร่วมการฝึกและระดับกองทัพเรือ ทำการฝึกบริเวณพื้นที่อ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ ๑๙ มีนาคม ถึงวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๕ โดยมีหัวข้อการฝึกที่สำคัญ คือ การควบคุมทะเล การรักษาเส้นทางคมนาคมทางทะเล การป้องกันฝั่ง การปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก การฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี การฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธี และการต่อต้านการก่อการร้าย ณ บริเวณแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติ โดยมีการจัดกำลังจาก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รวมถึงชุดปฏิบัติการพิเศษจาก หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ชุดถอดทำลายอมภัณท์ ชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน เข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้ด้วย
ส่วนการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ C-801 จะทำการฝึกยิงในวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๕ โดย เรือหลวงบางปะกงและเรือหลวงเจ้าพระยา ทั้งนี้ อาวุธปล่อยนำวิถี C-801 เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีประเภท พื้น-สู่-พื้น ผลิตจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ใช้ต่อต้านเรือผิวน้ำ โดยเมื่อถูกปล่อยออกจากท่อยิงจะโคจรเรี่ยน้ำ ด้วยความเร็วต่ำกว่าเสียง ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงแข็ง หัวรบเป็นแบบกึ่งเจาะเกราะ และมีชนวนกระทบแตก หน่วงเวลาการระเบิด มีวงจรต่อต้านการรบกวน สามารถใช้ได้ในสภาวะท้องทะเลปกติ จนถึง Sea State 5 โดยกองทัพเรือจัดหาเข้าประจำการในกองทัพเรือ โดยติดตั้งไว้ในเรือฟริเกตชุดเรือหลวงเจ้าพระยา (เรือหลวงเจ้าพระยา เรือหลวงบางปะกง เรือหลวงกระบุรี และ เรือหลวงสายบุรี) ปัจจุบันกองทัพเรือได้ จัดหาอาวุธปล่อยนำวิถี แบบ C - 802A ซึ่งมีความทันสมัยและแม่นยำกว่าระบบเดิม มาทดแทน โดยติดตั้งบนเรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงสายบุรี (ที่มา : ยก.ทร.)