วันอังคารที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2555

๒๙ มีนาคม นี้ กรมประมงประกาศปิดอ่าวฯ

๒๙ มีนาคม นี้ กรมประมงประกาศปิดอ่าวฯ "งดจับปลาฤดูวางไข่"
        กรมประมง ประกาศมาตรการปิดอ่าวฝั่งทะเลอันดามันประจำปี ๒๕๕๕ ภายใต้คำขวัญ "งดจับปลาฤดูมีไข่ อนุรักษ์ไว้ใช้อย่างยั่งยืน" โดยกำหนดจัดพิธีในวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ มีนาคม นี้ ณ บริเวณศูนย์บริหารจัดการประมงทะเลฝั่งอันดามัน ตำบลไสไทย อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ภายในงานจะมีพิธีปล่อยเรือตรวจประมงทะเลออกปฏิบัติงาน การแสดงด้านการอนุรักษ์ของยุวประมง การปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำลงสู่ทะเล และการจัดนิทรรศการที่เกี่ยวข้องด้านการประมง
จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมพิธีปิดอ่าว ฯ ในครั้งนี้ และขอให้พี่น้องชาวประมงโปรดให้ความร่วมมืองดทำการประมงด้วยเครื่องมือต้องห้ามในพื้นที่ที่กำหนด ตลอดจนร่วมเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังการทำการประมง กรณีพบเห็นผู้กระทำผิด พ.ร.บ.การประมงในช่วงใช้มาตรการดังกล่าว ระหว่างวันที่ ๑ เมษายน ถึงวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ โปรดแจ้งศูนย์ควบคุมและสั่งการ หมายเลขโทรศัพท์ ๐๗๕ ๖๒๐ ๕๑๐ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
สำหรับประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดห้ามใช้เครื่องมือทำการประมงบางชนิดทำการประมงในฤดูปลาที่มีไข่ และวางไข่เลี้ยงลูก ในที่จับสัตว์น้ำบางส่วนของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ และตรัง ภายในระยะเวลาที่กำหนด ฉบับลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๑ มีสาระสำคัญ ดังนี้
๑) ฤดูปลาที่มีไข่ และวางไข่เลี้ยงลูก (ระยะเวลาห้ามทำการประมง) ระหว่างวันที่ ๑ เมษายน ถึง ๓๐ มิถุนายน ของทุกปี
๒) พื้นที่ห้ามทำการประมง พื้นที่บางส่วนของจังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง รวมพื้นที่ ๔,๖๙๖ ตารางกิโลเมตร หรือ ๒,๙๓๕,๐๐๐ ไร่
๓) เครื่องมือห้ามทำการประมง ได้แก่ เครื่องมืออวนลากทุกประเภททุกขนาดที่ใช้ประกอบเรือกล, เครื่องมืออวนประเภทล้อมจับทุกชนิด และเครื่องมืออวนติดตาที่มีช่องตาเล็กกว่า ๔.๗ เซนติเมตร
๔) เครื่องมือที่ยกเว้นให้ทำการประมงได้
- เครื่องมืออวนล้อมจับปลากะตักทำการประมงเฉพาะในเวลากลางวัน ตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น ถึงพระอาทิตย์ตก
- เครื่องมืออวนลากคานถ่างที่ใช้ประกอบกับเรือกล (เครื่องมืออวนลากแผ่นตะเฆ่มีคานถ่าง หรือ อวนลากที่ใช้ประกอบกับเรือกล ซึ่งใช้เชือกเส้นใยประดิษฐ์เป็นสายลากอวน) เฉพาะในเวลากลางคืน ตั้งแต่พระอาทิตย์ตกถึงพระอาทิตย์ขึ้น
- เครื่องมืออวนโป๊ะ
- บทกำหนดโทษ หากมีชาวประมงรายใดฝ่าฝืนใช้เครื่องมือต้องห้ามทำการประมงในพื้นที่ที่ได้ประกาศปิดอ่าวฯ ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ ห้าพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาท หรือ จำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือทั้งปรับทั้งจำ (ที่มา: http://www.thanonline.com)