หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง จัดพิธีสวนสนามยานยนต์ในครั้งนี้ มีกำลังพลเข้าสวนสนาม ๕๕๓ นาย ยานพาหนะจำนวน ๑๒๖ คัน และยุทโธปกรณ์ จำนวน ๓๖ กระบอก/คัน/ระบบ โดยจัดกำลังในการสวนสนาม ฯ เป็น ๔ กองพัน มี นาวาเอก บัญฑิตย์ จันทโรจวงศ์ เสนาธิการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เป็นผู้อำนวยการจัดพิธีสวนสนาม ฯ และ นาวาเอก ไพศาล มีศรี ผู้บังคับการกรมรักษาฝั่งที่ ๑ เป็นผู้บังคับกรมผสม
นอกจากพิธีสวนสนามแล้ว หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ได้จัดให้มีการมอบทุนการศึกษาแก่บุตรของข้าราชการ พิธีปลูกต้นไม้มงคล ๙ อย่าง และนำต้นสักซึ่งได้รับพระราชทานนามจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ว่า "สักสยามินทร์" และต้นสักที่ได้รับนามพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า "มเหสักข์" โดยได้รับจากมูลนิธิอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ปลูกจำนวน ๑๐ ต้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ถือเอาวันที่ ๑๓ สิงหาคม ของทุกปีเป็นวันคล้ายวันสถาปนาหน่วย ปีนี้เป็นปีที่ ๒๑ สืบเนื่องจากในปี ๒๕๑๘ กระทรวงกลาโหมได้อนุมัติหลักการความพร้อมในด้านการต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศ โดยให้กองทัพเรือพิจารณาจัดตั้งหน่วยต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศขึ้นใหม่ มีหน้าที่ในการป้องกันภัยทางอากาศให้แก่ฐานทัพเรือ และที่ตั้งสำคัญของกองทัพเรือ ต่อมาในวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๓๑ ได้มีมติคณะรัฐมนตรีในการตั้งโครงการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจชายฝั่งทะเลภาค ตะวันออก จึงได้มอบหมายให้กองทัพเรือมีหน้าที่รับผิดชอบด้านการป้องกันภัยทางอากาศและ ภัยทางทะเลให้กับพื้นที่เศรษฐกิจเหล่านั้น กรมต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งจึงได้รับการขยายหน่วยให้เป็นหน่วยบัญชาการ ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ภายใต้ชื่อย่อว่า สอ.รฝ. ขึ้นตรงต่อกองทัพเรือเมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๓๓
(ที่มา : สอ.รฝ.)
