เจ้าของเรือประมงในจังหวัด สุราษฎร์ธานี เผย การที่ธุรกิจค้าน้ำมันเถื่อนยังคงเติบโตได้ดี เป็นเพราะส่วนต่างของราคา กล่าวคือ หากนำเรือออกไปกลางทะเลนอกน่านน้ำไทยหรือน่านน้ำสากล จำเป็นต้องเลือกซื้อน้ำมันเถื่อน เพราะราคาถูกกว่าน้ำมันทั่วไปลิตรละเกือบ ๑๐ บาท หากใช้น้ำมันในระบบจะมีปัญหาในแง่ของต้นทุนที่สูงขึ้น ส่วนมากจะซื้อน้ำมันจากเรือของเวียดนามเป็นหลักราคาถูกกว่าเรือประเทศอื่น ทั้งนี้ ในส่วนของการค้าน้ำมันเถื่อนกลางทะเลมีคู่แข่งขันกันโดยจะเลือกราคาที่ถูก ที่สุด
ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรในเขตพื้นที่รับผิดชอบของศุลกากรภาคที่ ๔ ได้มีมาตรการสกัดกั้นปราบปรามอย่างหนักและต่อเนื่อง เพราะการที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในไทยมีราคาสูง ทำให้น้ำมันเถื่อนราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้านจึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ใช้ ส่งผลให้กลุ่มผู้ลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนมีเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นทางศุลกากรภาคที่ ๔ จึงจำเป็นที่ต้องปรับแผนปราบปรามสกัดกั้นทุกรูปแบบเชิงบูรณาการทั้งทางบกและ ทางทะเล แต่ปัญหาที่ประสบอยู่คือ ศุลกากรภาคที่ ๔ ไม่มีเรือเร็วสำหรับออกลาดตระเวนกวดขันปราบปรามจับกุมกลุ่มผู้ลักลอบค้า น้ำมันเถื่อนที่มาทางทะเล ซึ่งขณะนี้ได้แก้ไขปัญหาเบื้องต้นเฉพาะหน้าแล้วโดยการยืมเรือเร็วจากศุลกากร ตากใบ จังหวัดนราธิวาส มา ๑ ลำ เพื่อใช้สกัดกั้นปราบปรามทางทะเลฝั่งอ่าวไทย ส่วนทางฝั่งทะเลอันดามันนั้นทางด่านศุลกากรสตลูมีเรือเร็ว จึงไม่มีปัญหามากนักในเรื่องของการออกตรวจเข้มปราบปรามทางทะเลฝั่งอันดามัน (ที่มา : เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจออนไลน์)
