วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดโซมาเลียของกองทัพเรือไทย ถึงอ่าวเอเดนเพื่อปฏิบัติการภารกิจปราบปรามโจรสลัดโซมาเลีย

      หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดโซมาเลียของกองทัพเรือไทย เดินทางถึงอ่าวเอเดน ประเทศโซมาเลีย เพื่อปฏิบัติการภารกิจปราบปรามโจรสลัดที่คอยโจมตีเรือบรรทุกสินค้าและเรือ ประมงที่ใช้เส้นทางดังกล่าว เมื่อต้นเดือนตุลาคม
       ก่อนที่กองทัพเรือไทยจะเดินทางถึงสถานการณ์ในน่านน้ำอ่าวเอเดนยังคง ตึงเครียดโดยที่ เรือ MV Mississippi Star ได้ถูกโจรสลัดพยายามบุกขึ้นยึดเรือและโจมตีด้วยอาวุธปืนกับจรวดอาร์พีจี บริเวณชายฝั่งโซมาเลีย นอกเขตประเทศแทนซาเนีย ห่างฝั่งประมาณ ๔๕ ไมล์ แต่สามารถหลบหนีไปได้ จากนั้นโจรสลัดได้จับยึดเรือ Asphalt Venture สัญชาติปานามา พร้อมลูกเรือชาวอินเดียจำนวน ๑๕ คน ระหว่างเดินทางจากประเทศเคนย่าไปยังประเทศแอฟริกาใต้ โดยโจรสลัดได้ทำการจับยึดได้ที่บริเวณชายฝั่งโซมาเลีย นอกเขตประเทศแทนซาเนียห่างฝั่งประมาณ ๑๑๐ ไมล์ นอกจากนี้ เรือประมง Al Mahdi สัญชาติอิหร่านถูกโจรสลัดจับยึดในชายฝั่งโซมาเลีย นอกเขตประเทศเคนย่า ห่างฝั่งประมาณ ๔๐ ไมล์ รวมเรือที่ถูกโจรสลัดจับยึดแล้วทั้งสิ้นจำนวน ๑๙ ลำ
        สำหรับเรือประมงไทยที่ถูกกลุ่มโจรสลัดจับยึดไปและนำไปดัดแปลงเป็น เรือแม่เพื่อใช้ปฏิบัติการปล้นยึดเรือลำอื่น ๆ นั้น ขณะนี้จอดเรืออยู่ที่เมืองคาลาคัดชายฝั่งโซมาเลีย และตัวประกันอยู่ในความควบคุมของโจรสลัด
        ขณะนี้หมู่เรือปราบปรามโจรสลัดได้ดำรงการติดต่อสื่อสารกับเรือ สินค้าและเรือประมงไทยทุกลำ ที่แล่นเข้ามาในเขตรับผิดชอบ ตลอดจนจะดำเนินการคุ้มกันความปลอดภัยเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการเดินเรือ ผ่านเส้นทางนี้ โดยจะลาดตระเวนในพื้นที่และเน้นการคุ้มครองเรือไทยเป็นอันดับแรก ทั้งนี้ เรือทั้งสองลำจะแยกกันลาดตระเวน โดยเรือหลวงสิมิลันจะทำการคุ้มครองเรือสินค้าและเรือประมงไทย ส่วนเรือหลวงปัตตานีจะลาดตระเวนในเส้นทาง IRTC ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือสินค้าและมีความเปราะบางต่อการจู่โจมของกลุ่มโจร สลัดร่วมกับกองกำลังนานาชาติ จำนวน ๒๙ ประเทศโดยมุ่งเน้นการป้องกันเรือสินค้าและเรือประมงไทยเป็นหลัก (ที่มา : หนังสือพิมพ์บางกอกทูเดย์)