นายกรัฐมนตรีและคณะ
เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๕
บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร
๒ เมษายน ๒๕๕๕ เวลา ๑๓.๔๐
น. นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พลเอก ยุทธศักดิ์ ศศิประภา
รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมาตรวจเยี่ยมการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๕
พร้อมกับรับฟังการบรรยายสรุปการฝึกกองทัพเรือ ฯ ณ เรือหลวงจักรีนฤเบศร
บริเวณพื้นที่อ่าวไทย โดยมี พลเรือเอก สรุศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ
และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ให้การต้อนรับ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเข้ารับฟังการบรรยายสรุป และชมการฝึก ฯ
บริเวณห้องควบคุมการบิน เรือหลวงจักรีนฤเบศร ประกอบด้วย การยิงอาวุธประจำเรือ
โดยเรือหลวงปัตตานีและเรือหลวงนราธิวาส การยิงอาวุธปราบเรือดำน้ำ
โดยเรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงสายบุรี การยิงอาวุธประจำอากาศยาน
การฝึกปฏิบัติการทางเรือสาขาการปราบปรามโจรสลัด โดย
เรือหลวงสิมิลันและเฮลิคอปเตอร์แบบเบลล์ ๒๑๒ และการรับส่งสิ่งของในทะเล
โดยเรือหลวงจักรีนฤเบศรและเรือหลวงกระบุรี ในโอกาสนี้
นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในสมุดเยี่ยม
และรับมอบของที่ระลึกจากผู้บัญชาการทหารเรือ
กองทัพเรือ
ได้ดำเนินการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี ๒๕๕๕ ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ขณะนี้อยู่ในห้วงการฝึกภาคสนาม/ทะเล
เป็นการฝึกทดสอบการปฏิบัติการร่วมทั้งระดับหน่วยกำลังที่เข้าร่วมการฝึกและระดับกองทัพเรือ
ณ บริเวณพื้นที่อ่าวไทย ซึ่งจะทำการฝึกไปจนถึงวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๕
การฝึกกองทัพเรือ เป็นการฝึกที่กองทัพเรือได้จัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปี
โดยได้บูรณาการการฝึกของหน่วยต่าง ๆ ในกองทัพเรือเข้าไว้ด้วยกัน
มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การประสานงานการปฏิบัติด้านการฝึกเป็นหนึ่งเดียว
ด้วยการนำสาขาการปฏิบัติการต่าง ๆ ในส่วนของกำลังรบ
และการปฏิบัติ/การสนับสนุนของกรมในส่วนบัญชาการ
รวมทั้งส่วนยุทธบริการและส่วนการศึกษา
ที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันมาทำการฝึกภายใต้สถานการณ์ฝึกห้วงเวลาเดียวกันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน
โดยเน้นไปที่การทดสอบแผนเผชิญเหตุที่กองทัพเรือได้อนุมัติไว้แล้ว
ตลอดจนเพื่อทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ
โดยจัดการฝึกให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์และนโยบายของกองทัพเรือ และทำการฝึกในลักษณะ
"รบอย่างไร ฝึกอย่างนั้น" กล่าวคือ
หน่วยที่จะต้องปฏิบัติภารกิจใดในสถานการณ์จริงให้ปฏิบัติภารกิจหน้าที่นั้นในสถานการณ์ฝึก
สำหรับการฝึกกองทัพเรือในปีนี้จัดขึ้น
ตั้งแต่วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ โดยแบ่งการฝึกออกเป็น ๒ ส่วน
คือ การฝึกปัญหาที่บังคับการ เป็นการฝึกทดสอบแนวความคิด
การตัดสินใจตามกระบวนการวางแผนทางทหาร และการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศ
โดยทำการฝึก ณ ที่ตั้งปกติ เมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๕
และส่วนของการฝึกภาคสนาม/ทะเล เป็นการฝึกทดสอบการปฏิบัติการร่วม
ทั้งระดับหน่วยกำลังที่เข้าร่วมการฝึกและระดับกองทัพเรือ
ทำการฝึกบริเวณพื้นที่อ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ ๑๙ มีนาคม ถึงวันที่ ๖ เมษายน ๒๕๕๕
โดยมีหัวข้อการฝึกที่สำคัญ คือ การควบคุมทะเล การรักษาเส้นทางคมนาคมทางทะเล
การป้องกันฝั่ง การปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก การฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี
การฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธี และการต่อต้านการก่อการร้าย ณ
บริเวณแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติ โดยมีการจัดกำลังจาก หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง รวมถึงชุดปฏิบัติการพิเศษจาก
หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ชุดถอดทำลายอมภัณท์
ชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉิน
เข้าร่วมการฝึกในครั้งนี้ด้วย
ส่วนการฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแบบ C-801
จะทำการฝึกยิงในวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๕ โดย เรือหลวงบางปะกงและเรือหลวงเจ้าพระยา
ทั้งนี้ อาวุธปล่อยนำวิถี C-801 เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีประเภท พื้น-สู่-พื้น
ผลิตจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ใช้ต่อต้านเรือผิวน้ำ
โดยเมื่อถูกปล่อยออกจากท่อยิงจะโคจรเรี่ยน้ำ ด้วยความเร็วต่ำกว่าเสียง
ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงแข็ง หัวรบเป็นแบบกึ่งเจาะเกราะ และมีชนวนกระทบแตก
หน่วงเวลาการระเบิด มีวงจรต่อต้านการรบกวน สามารถใช้ได้ในสภาวะท้องทะเลปกติ จนถึง
Sea State 5 โดยกองทัพเรือจัดหาเข้าประจำการในกองทัพเรือ
โดยติดตั้งไว้ในเรือฟริเกตชุดเรือหลวงเจ้าพระยา (เรือหลวงเจ้าพระยา เรือหลวงบางปะกง
เรือหลวงกระบุรี และ เรือหลวงสายบุรี) ปัจจุบันกองทัพเรือได้ จัดหาอาวุธปล่อยนำวิถี
แบบ C - 802A ซึ่งมีความทันสมัยและแม่นยำกว่าระบบเดิม มาทดแทน
โดยติดตั้งบนเรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงสายบุรี (ที่มา : ยก.ทร.)