ฤดูหนาวที่กำลังมาเยือนอาจทำให้หลายคนเจ็บไข้ได้ป่วยหรือผิวแห้งแตกลอกได้ง่าย ๆ วันนี้มีเคล็ดลับดูแลสุขภาพ ให้คุณพร้อมสู้กับลมหนาวในปีนี้มาฝาก
๑. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้เพียงพอและครบหมู่ ดื่มน้ำมาก ๆ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และไม่ตรากตรำทำงานหนักจนเกินไป
๒. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และยาเสพติดต่าง ๆ เนื่องจากจะทำให้สุขภาพร่างกายเสื่อมโทรม เท่ากับเพิ่มโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
๓. อยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงสถานที่ชุมชนที่แออัดโดยเฉพาะหากมีการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่
๔. ล้างมือบ่อย ๆ เพราะอาจไปสัมผัสเชื้อโรคที่ติดอยู่ตามสิ่งของต่าง ๆ เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได ปุ่มลิฟต์ โทรศัพท์สาธารณะ เป็นต้น
๕. หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย และไม่ควรใช้ของร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ จานชาม ช้อนส้อม
๖. หากป่วยแล้วมีอาการไอหรือจาม ควรมีผ้าปิดปากและจมูก หรือสวมหน้ากากอนามัย
๗. ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด อาการจะกำเริบได้ง่ายในฤดูนี้ นอกจากอากาศเย็นที่เป็นสาเหตุโดยตรงแล้ว ฤดูหนาวจะมีฝุ่นมาก หรือการนอนนาน ๆ ในฤดูหนาวจะเพิ่มโอกาสของผู้ที่แพ้ตัวไรฝุ่นตามที่นอน หมอน ผ้าห่มได้มากขึ้น ดังนั้นควรระมัดระวังสิ่งกระตุ้นเหล่านี้ และรักษาร่างกายให้แข็งแรงเข้าไว้
๘. พยายามรักษาร่างกายให้อบอุ่นในช่วงฤดูหนาว หรือช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ใส่เสื้อผ้าที่อบอุ่นเหมาะกับฤดูกาล หากอยู่ในที่ที่หนาวมากควรสวมหมวก เพื่อลดการถ่ายเทความร้อนออกจากร่างกาย
๙. การอาบน้ำหลังจากตื่นนอน อาจไม่จำเป็นต้องฟอกสบู่ หรือฟอกเพียงบางจุด หรือหากอยู่ในที่ที่อากาศหนาวมาก ๆ อาจไม่จำเป็นต้องอาบน้ำวันละสองครั้งตามปกติ และไม่ควรอาบน้ำนาน ๆ
๑๐. ไม่ควรอาบน้ำอุ่นจัดจนเกินไป โดยเฉพาะการล้างหน้า เพราะน้ำอุ่นจะทำให้ความชุ่มชื้นของผิวหายไป นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีฟองมาก ๆ เพราะจะดึงความชุ่มชื้นไปจากผิว และไม่ควรเช็ดถูผิวแรง ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ผิวลอกมากขึ้น
๑๑. ทาโลชั่นบำรุงผิวหลังอาบน้ำ ขณะที่ตัวยังหมาด ๆ จะช่วยป้องกันผิวแห้ง แตก ลอก ในฤดูหนาวได้ และควรทาให้ทั่วร่างกาย รวมทั้งส่วนที่เรามักไม่ใส่ใจ เช่น เท้า การทาโลชั่นและสวมถุงเท้านอน จะช่วยให้เท้าเนียนนุ่มชุ่มชื้น ลดปัญหาส้นเท้าแตกได้อีกด้วย ส่วนมือที่แห้งและแตกลองนวดด้วยน้ำมันมะกอกทิ้งไว้สักพัก ล้างออกด้วยน้ำสบู่แล้วนวดด้วยครีมทามือ รอยแห้งแตกก็จะหายไป
๑๒. ริมฝีปากที่แห้งแตกก็ควรได้รับการบำรุงและปกป้องเช่นกัน ไม่ควรเลียริมฝีปากบ่อย ๆ เพราะจะยิ่งทำให้ปากแห้งแตกมากขึ้น
๑๓. ในช่วงหน้าหนาวไม่จำเป็นต้องสระผมบ่อย ๆ และใช้แชมพูในปริมาณน้อย ๆ เพราะจะทำให้เส้นผมแห้งแตกปลายได้ง่าย และยังทำให้หนังศีรษะแห้งเกินไปจนเกิดรังแคได้อีกด้วย
๑๔. บำรุงร่างกายภายนอกกันแล้ว ก็ อย่าลืมบำรุงร่างกายให้ชุ่มชื้นจากภายในด้วย โดยการดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน โดยเฉพาะน้ำอุ่นซึ่งจะช่วยให้ร่างกายของคุณอุ่นขึ้น นอกจากนี้ควรรับประทานผักผลไม้สดให้มากด้วย เพื่อให้ร่างกายชุ่มชื้นจากภายใน
๑๕. การเลือกซื้อเสื้อกันหนาวมือสอง อาจนำเชื้อโรคต่าง ๆ ติดมาด้วย ควรเลือกให้ดี อย่าให้มีรอยด่างดำและรอยคราบสารคัดหลั่งต่าง ๆ หรือกลิ่นอับชื้นติดอยู่ เพราะอาจทำให้ติดเชื้อโรคได้ ก่อนนำไปสวมใส่ควรต้มในน้ำเดือด และซักให้สะอาด แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้งสนิท แม้แต่เสื้อกันหนาวใหม่ ๆ ก็ควรนำไปซักแล้วตากแดดก่อนนำไปสวมใส่เช่นกัน (ที่มา : LISA)
วันอังคารที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2554
กิจการเดินรถสวัสดิการสัตหีบ ขอเชิญทัศนศึกษาจังหวัดนครนายก
กิจการเดินรถสวัสดิการสัตหีบ ขอเชิญทัศนศึกษาจังหวัดนครนายก ๒๔ ธันวาคม นี้
กิจการเดินรถสวัสดิการสัตหีบ จัดกิจกรรมทัศนศึกษาจังหวัดนครนายก ชมเขื่อนขุนด่านปราการชล อุทยานพระพิฆเนศ หลวงพ่อปากแดง น้ำตกนางรอง แวะซื้อของฝากตลาดหนองชะอม ในวันเสาร์ที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๔ ราคาท่านละ ๓๐๐ บาท สนใจสอบถามรายละเอียดและจองที่นั่งได้ที่ ตลาดกองโยธา ฐานทัพเรือสัตหีบ หมายเลขโทรศัพท์ภายใน ๗๑๒๐๓ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐ น. - ๑๖.๐๐ น. (ที่มา : กิจการเดินรถฯ)
ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองทัพเรือ รับแจ้งเบาะแสการทุจริตและประพฤติมิชอบ
กองทัพเรือได้จัดตั้งศูนย์ประสานราชการใสสะอาด กองทัพเรือ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการป้องกันการทุจริต คอรัปชั่น การประพฤติมิชอบ การร้องเรียน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเรือ หากผู้ใดพบเห็นการปฏิบัติดังกล่าวสามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ กองทัพเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕ ๔๗๘๙ หรือทาง www.navy.mi.th/rongtook (ที่มา : สลก.ทร.)
วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ รับสมัครบุคคลพลเรือน
วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ รับสมัครบุคคลพลเรือนเข้าศึกษาในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๕
วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ กำหนดเปิดรับสมัครบุคคลพลเรือนเข้าศึกษาในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๕ รับสมัครทางอินเตอร์เน็ต ระหว่างวันที่ ๙ มกราคม ถึงวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๕ โดยผู้สมัครจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ หรือสำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาในโรงเรียนที่ใช้หลักสูตร มัธยมศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
- เป็นสตรีโสด อายุระหว่าง ๑๗ - ๒๐ ปี เกิดระหว่างปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ - ๒๕๓๘
- มีสัญชาติไทย บิดา มารดาผู้ให้กำเนิดต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด
- มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง บุคลิกเหมาะต่อการรับราชการทหารและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล น้ำหนักตัวไม่น้อยกว่า ๔๒ กิโลกรัม แต่ไม่เกิน ๖๕ กิโลกรัม ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า ๑๕๕ เซนติเมตร และดัชนีมวลกาย (MBI) ไม่เกิน ๒๕ กิโลกรัมต่อตารางเมตร
- เป็นผู้ที่มีความประพฤติดีไม่บกพร่องทางศีลธรรม และไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามกฎหมาย ไม่อยู่ระหว่างเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา และไม่เป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษหรือมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
สนใจสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตได้ทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ ๙ มกราคม ถึง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๕ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕๒๖๑๔ หรือ ๐ ๒๔๗๕ ๒๖๒๕ หรือทางเว็บไซต์ www.rtncn.ac.th, www.navy.mi.th, www.nmd.go.th (ที่มา : วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ)
- เป็นผู้ที่กำลังศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ หรือสำเร็จการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งเป็นหลักสูตรการศึกษาในโรงเรียนที่ใช้หลักสูตร มัธยมศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๔๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
- เป็นสตรีโสด อายุระหว่าง ๑๗ - ๒๐ ปี เกิดระหว่างปีพุทธศักราช ๒๕๓๕ - ๒๕๓๘
- มีสัญชาติไทย บิดา มารดาผู้ให้กำเนิดต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด
- มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง บุคลิกเหมาะต่อการรับราชการทหารและการประกอบวิชาชีพการพยาบาล น้ำหนักตัวไม่น้อยกว่า ๔๒ กิโลกรัม แต่ไม่เกิน ๖๕ กิโลกรัม ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า ๑๕๕ เซนติเมตร และดัชนีมวลกาย (MBI) ไม่เกิน ๒๕ กิโลกรัมต่อตารางเมตร
- เป็นผู้ที่มีความประพฤติดีไม่บกพร่องทางศีลธรรม และไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามกฎหมาย ไม่อยู่ระหว่างเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา และไม่เป็นผู้ติดยาเสพติดให้โทษหรือมียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย
สนใจสมัครเข้าศึกษาในหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิตได้ทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ ๙ มกราคม ถึง ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๕ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ หมายเลขโทรศัพท์ ๐ ๒๔๗๕๒๖๑๔ หรือ ๐ ๒๔๗๕ ๒๖๒๕ หรือทางเว็บไซต์ www.rtncn.ac.th, www.navy.mi.th, www.nmd.go.th (ที่มา : วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ)
กองทัพเรือสหรัฐ ฯ จะนำเรือรบใหม่ล่าสุดหลายลำไปประจำการในสิงคโปร์
สหรัฐ ฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับการปกป้องเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลจีนใต้ หรือ "เซาท์ ไชน่า ซี" ที่กำลังเพิ่มขึ้น ซึ่งจีนและหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังพิพาทกันเกี่ยวกับพรมแดนทางทะเลในบริเวณดังกล่าว ด้าน พลเรือเอกโจนาธาน กรีเนิร์ท หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการกองทัพเรือกล่าวว่า กองทัพเรือจะนำเรือรบใหม่ล่าสุดหลายลำไปประจำการในสิงคโปร์ และอาจเพิ่มการระดมเครื่องบิน เช่น เครื่องบิน พี-8เอ โพไซดอน ที่มีประสิทธิภาพในการติดตามเรือดำน้ำเข้าประจำการในฟิลิปปินส์และไทย ซึ่งเป็นไปตามสนธิสัญญาความร่วมมือในภูมิภาค
(ที่มา : เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ)
(ที่มา : เว็บไซต์ฐานเศรษฐกิจ)
กองทัพเรือส่งกำลังพลเข้าร่วมในการทดสอบทดลองเรือยกพลขึ้นบก
กองทัพเรือส่งกำลังพลเข้าร่วมในการทดสอบทดลองเรือยกพลขึ้นบก ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์
กองทัพเรือ จัดกำลังพล ๕ นาย เดินทางไปเข้าร่วมในการทดสอบ ทดลองเรือยกพลขึ้นบก (Amphibious Ship Yard Trial) ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ตามคำเชิญของบริษัท Singapore Technologies Marine LTD. (ST Marine) ตั้งแต่วันที่ ๑๗ ถึงวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๕๔
ตามที่กองทัพเรือได้ลงนามในสัญญาจ้างบริษัท Singapore Technologies Marine LTD. สาธารณรัฐสิงคโปร์ สร้างเรือยกพลขึ้นบก จำนวน ๑ ลำ รวมทั้งเรือระบายพลขนาดเล็ก (LCVP) จำนวน ๒ ลำ และเรือระบายพลขนาดกลาง (LCM) จำนวน ๒ ลำ พร้อมระบบ อุปกรณ์ อะไหล่ เครื่องมือ ส่วนสนับสนุน การทดสอบทดลอง การฝึกอบรม เอกสารและข้อมูล การตรวจรับและส่งมอบเรือ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีกำหนดส่งมอบเรือภายใน ๑,๔๖๐ วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ฯ ในวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๕ และการที่กองทัพเรือส่งกำลังพลกองทัพเรือเข้าร่วมในการทดสอบทดลองเรือยกพลขึ้นบกในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพเรือที่ทำให้กำลังพลรับเรือ ฯ ได้เรียนรู้จากการสังเกตการณ์ในการทดสอบ ทดลอง เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนเรือ ฯ เพื่อการใช้ปฏิบัติงานในอนาคต (ที่มา : สยป.ทร.)
ตามที่กองทัพเรือได้ลงนามในสัญญาจ้างบริษัท Singapore Technologies Marine LTD. สาธารณรัฐสิงคโปร์ สร้างเรือยกพลขึ้นบก จำนวน ๑ ลำ รวมทั้งเรือระบายพลขนาดเล็ก (LCVP) จำนวน ๒ ลำ และเรือระบายพลขนาดกลาง (LCM) จำนวน ๒ ลำ พร้อมระบบ อุปกรณ์ อะไหล่ เครื่องมือ ส่วนสนับสนุน การทดสอบทดลอง การฝึกอบรม เอกสารและข้อมูล การตรวจรับและส่งมอบเรือ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีกำหนดส่งมอบเรือภายใน ๑,๔๖๐ วัน นับถัดจากวันลงนามในสัญญา ฯ ในวันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๕๕ และการที่กองทัพเรือส่งกำลังพลกองทัพเรือเข้าร่วมในการทดสอบทดลองเรือยกพลขึ้นบกในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพเรือที่ทำให้กำลังพลรับเรือ ฯ ได้เรียนรู้จากการสังเกตการณ์ในการทดสอบ ทดลอง เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนเรือ ฯ เพื่อการใช้ปฏิบัติงานในอนาคต (ที่มา : สยป.ทร.)
๒๒ ธันวาคม วันคล้ายวันสถาปนากองเรือทุ่นระเบิด
๒๒ ธันวาคม วันคล้ายวันสถาปนากองเรือทุ่นระเบิด จัดบำเพ็ญสาธารณประโยชน์และมอบรางวัล "พ่อตัวอย่าง" ให้แก่กำลังพลที่ได้รับคัดเลือก
วันนี้ (๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๔) กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ จัดกำลังพลไปบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ณ วัดภาวนาราม ตำบลนาเกลือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองเรือทุ่นระเบิด ประจำปี ๒๕๕๔ ในวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ โดยทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบพระอุโบสถ ศาลาปฏิบัติธรรม พื้นที่อื่น ๆ ภายในวัด ตัดหญ้า และจัดเก็บขยะมูลฝอยภายในวัด
และในวันที่ ๒๒ ธันวาคม จะประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่กำลังพลของหน่วยและมอบรางวัล "พ่อตัวอย่าง" ให้แก่ข้าราชการที่ได้รับคัดเลือก รวม ๓ รางวัล ประกอบด้วย พ่อตัวอย่างด้านครอบครัว พ่อตัวอย่างด้านสังคม และพ่อตัวอย่างด้านศีลธรรม โดยมี พลเรือตรี ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด เป็นประธานในพิธี ฯ
กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ถือเอาวันที่ ๒๒ ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนากองเรือทุ่นระเบิด สืบเนื่องจากปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปีพุทธศักราช ๒๔๔๖ กรมทหารเรือ กำหนดให้มีกองทุ่นระเบิดขึ้นตรงกับกองบัญชาการเรือและป้อม มีหน้าที่ในการจัดหาทุ่นระเบิดและวางสายทุ่นระเบิด ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ สหรัฐ ฯ ได้ส่งเรือดำน้ำเข้ามาวางทุ่นระเบิดบริเวณเกาะริ้น เกาะสีชัง และเกาะคราม เป็นเหตุให้เรือซิดนีย์มารูของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรกับประเทศไทยในเวลานั้นถูกทุ่นระเบิดได้รับความเสียหายอย่างหนักไม่สามารถเดินเรือต่อไปได้ ทำให้บรรดาเรือสินค้าและเรือประมงไม่กล้าออกทะเลในช่วงเวลาดังกล่าว ทัพเรือ (หน่วยสนามของราชนาวีในขณะนั้น) จึงได้ลงคำสั่งยุทธการให้ เรือหลวงจวง (ลำเก่า) ร่วมกับเรือประมงจำนวนหนึ่งเป็นหมู่เรือกวาดทุ่นระเบิดออกปฏิบัติการระหว่างวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๔๘๕ ถึงวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๔๘๖ นับเป็นการปฏิบัติการกวาดทุ่นระเบิดครั้งแรกที่มีการบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน โดยการกวาดทุ่นระเบิดในครั้งนั้นกระทำโดยใช้แท่งแม่เหล็กถาวรลากด้วยสายลวดยาว ๒๐๐ เมตร ถือว่าได้ผลพอสมควร ไม่ปรากฏว่าเรือของฝ่ายเราโดยทุ่นระเบิดอีกเลย
ในอดีตมีการบันทึกไว้ว่า หมู่เรือกวาดทุ่นระเบิดของทัพเรือนั้น นอกจากจะทำการกวาดทุ่นระเบิดในทะเลแล้ว ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ประเทศพันธมิตรได้นำเครื่องบินมาวางทุ่นระเบิดในแม่น้ำเจ้าพระยา ทัพเรือจึงได้ลงคำสั่งจัดตั้งกองกวาดทุ่นระเบิดในแม่น้ำขึ้นเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๔๘๗ โดยมีภารกิจการกวาดทุ่นระเบิดในแม่น้ำ ต่อมาในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๘ ทัพเรือได้ยกเลิกกองกวาดทุ่นระเบิดในแม่น้ำและได้ตั้งกองกวาดทุ่นระเบิดแม่เหล็กขึ้นมาใหม่ โดยเพิ่มงานการวางเครื่องหมายทางเรือ และจัดยามคอยเหตุ รวมทั้งทำการกวาดทุ่นระเบิดนำหน้าเรือหลวงเวลาแล่นออกทะเล จากบทเรียนในการกวาดทุ่นระเบิดครั้งแรกนั้น กองทัพเรือมีข้อจำกัดในเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์ และเทคโนโลยีในการปฏิบัติการสงครามทุ่นระเบิด ทำให้เราไม่สามารถเปิดเส้นทางเดินเรือได้อย่างรวดเร็วในเวลาที่ต้องการ กองทัพเรือจึงได้พยายามเสริมสร้างกำลังรบด้านนี้มาโดยตลอด ต่อมาในวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๔๙๔ ชื่อของ กองเรือทุ่นระเบิด ได้ปรากฏเป็นครั้งแรกเมื่อมีการย้ายกองเรือต่าง ๆ จากกรุงเทพ ฯ ไปรวมอยู่ที่สัตหีบในชื่อใหม่ว่า "กองเรือยุทธการ"
ปัจจุบันกองเรือทุ่นระเบิดจะดำรงความพร้อมในด้านสงครามทุ่นระเบิดและจะไม่หยุดที่จะพัฒนาขีดความสามารถของกำลังทางด้านสงครามทุ่นระเบิดให้พร้อมที่จะเผชิญต่อภัยคุกคามที่หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยคุกคามจากทุ่นระเบิดได้ทันที ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจให้สมบูรณ์ ดังคำขวัญที่ว่า "ทำศึกทุ่นระเบิด เปิดวิถีนาวา ขวางมรรคาไพรี" (ที่มา : กทบ.กร.)
วันนี้ (๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๔) กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ จัดกำลังพลไปบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ณ วัดภาวนาราม ตำบลนาเกลือ อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากองเรือทุ่นระเบิด ประจำปี ๒๕๕๔ ในวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ โดยทำความสะอาดพื้นที่โดยรอบพระอุโบสถ ศาลาปฏิบัติธรรม พื้นที่อื่น ๆ ภายในวัด ตัดหญ้า และจัดเก็บขยะมูลฝอยภายในวัด
และในวันที่ ๒๒ ธันวาคม จะประกอบพิธีทางศาสนาเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่กำลังพลของหน่วยและมอบรางวัล "พ่อตัวอย่าง" ให้แก่ข้าราชการที่ได้รับคัดเลือก รวม ๓ รางวัล ประกอบด้วย พ่อตัวอย่างด้านครอบครัว พ่อตัวอย่างด้านสังคม และพ่อตัวอย่างด้านศีลธรรม โดยมี พลเรือตรี ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด เป็นประธานในพิธี ฯ
กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ถือเอาวันที่ ๒๒ ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนากองเรือทุ่นระเบิด สืบเนื่องจากปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปีพุทธศักราช ๒๔๔๖ กรมทหารเรือ กำหนดให้มีกองทุ่นระเบิดขึ้นตรงกับกองบัญชาการเรือและป้อม มีหน้าที่ในการจัดหาทุ่นระเบิดและวางสายทุ่นระเบิด ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ สหรัฐ ฯ ได้ส่งเรือดำน้ำเข้ามาวางทุ่นระเบิดบริเวณเกาะริ้น เกาะสีชัง และเกาะคราม เป็นเหตุให้เรือซิดนีย์มารูของประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นพันธมิตรกับประเทศไทยในเวลานั้นถูกทุ่นระเบิดได้รับความเสียหายอย่างหนักไม่สามารถเดินเรือต่อไปได้ ทำให้บรรดาเรือสินค้าและเรือประมงไม่กล้าออกทะเลในช่วงเวลาดังกล่าว ทัพเรือ (หน่วยสนามของราชนาวีในขณะนั้น) จึงได้ลงคำสั่งยุทธการให้ เรือหลวงจวง (ลำเก่า) ร่วมกับเรือประมงจำนวนหนึ่งเป็นหมู่เรือกวาดทุ่นระเบิดออกปฏิบัติการระหว่างวันที่ ๒๒ ธันวาคม ๒๔๘๕ ถึงวันที่ ๒๒ มกราคม ๒๔๘๖ นับเป็นการปฏิบัติการกวาดทุ่นระเบิดครั้งแรกที่มีการบันทึกเอาไว้เป็นหลักฐาน โดยการกวาดทุ่นระเบิดในครั้งนั้นกระทำโดยใช้แท่งแม่เหล็กถาวรลากด้วยสายลวดยาว ๒๐๐ เมตร ถือว่าได้ผลพอสมควร ไม่ปรากฏว่าเรือของฝ่ายเราโดยทุ่นระเบิดอีกเลย
ในอดีตมีการบันทึกไว้ว่า หมู่เรือกวาดทุ่นระเบิดของทัพเรือนั้น นอกจากจะทำการกวาดทุ่นระเบิดในทะเลแล้ว ช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ประเทศพันธมิตรได้นำเครื่องบินมาวางทุ่นระเบิดในแม่น้ำเจ้าพระยา ทัพเรือจึงได้ลงคำสั่งจัดตั้งกองกวาดทุ่นระเบิดในแม่น้ำขึ้นเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๔๘๗ โดยมีภารกิจการกวาดทุ่นระเบิดในแม่น้ำ ต่อมาในวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๘ ทัพเรือได้ยกเลิกกองกวาดทุ่นระเบิดในแม่น้ำและได้ตั้งกองกวาดทุ่นระเบิดแม่เหล็กขึ้นมาใหม่ โดยเพิ่มงานการวางเครื่องหมายทางเรือ และจัดยามคอยเหตุ รวมทั้งทำการกวาดทุ่นระเบิดนำหน้าเรือหลวงเวลาแล่นออกทะเล จากบทเรียนในการกวาดทุ่นระเบิดครั้งแรกนั้น กองทัพเรือมีข้อจำกัดในเรื่องเครื่องมืออุปกรณ์ และเทคโนโลยีในการปฏิบัติการสงครามทุ่นระเบิด ทำให้เราไม่สามารถเปิดเส้นทางเดินเรือได้อย่างรวดเร็วในเวลาที่ต้องการ กองทัพเรือจึงได้พยายามเสริมสร้างกำลังรบด้านนี้มาโดยตลอด ต่อมาในวันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๔๙๔ ชื่อของ กองเรือทุ่นระเบิด ได้ปรากฏเป็นครั้งแรกเมื่อมีการย้ายกองเรือต่าง ๆ จากกรุงเทพ ฯ ไปรวมอยู่ที่สัตหีบในชื่อใหม่ว่า "กองเรือยุทธการ"
ปัจจุบันกองเรือทุ่นระเบิดจะดำรงความพร้อมในด้านสงครามทุ่นระเบิดและจะไม่หยุดที่จะพัฒนาขีดความสามารถของกำลังทางด้านสงครามทุ่นระเบิดให้พร้อมที่จะเผชิญต่อภัยคุกคามที่หลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภัยคุกคามจากทุ่นระเบิดได้ทันที ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติภารกิจให้สมบูรณ์ ดังคำขวัญที่ว่า "ทำศึกทุ่นระเบิด เปิดวิถีนาวา ขวางมรรคาไพรี" (ที่มา : กทบ.กร.)
ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๑ เปิดกิจกรรม
ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๑ เปิดกิจกรรม "การอนุรักษ์และพัฒนาสภาพแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ ๑"
วันนี้ (๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๔) เวลา ๐๙.๔๕ น. พลเรือโท ชุมพล วงศ์เวคิน ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๑ เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม "การอนุรักษ์และพัฒนาสภาพแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ ๑" ณ เกาะขาม อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีประชาชนและผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมพิธีเปิด ฯ
ทัพเรือภาคที่ ๑ เป็นหน่วยที่รับผิดชอบดูแลอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ซึ่งปัจจุบันสภาพแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ฝั่งทะเลด้านตะวันออกหลายแห่งอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมอันเนื่องมาจากการนำทรัพยากรทางทะเลขึ้นมาใช้อย่างฟุ่มเฟือยไม่มีขีดจำกัด และการสร้างมลภาวะในรูปแบบต่าง ๆ ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง การถูกทำลายทั้งจากฝีมือมนุษย์และจากธรรมชาติ ซึ่งทัพเรือภาคที่ ๑ ได้ดำเนินงานในด้านงานอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางทะเลอย่างจริงจังและมีผลงานอย่างเป็นรูปธรรม ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลกับสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งหามาตรการและวิธีการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและสภาพแวดล้อมบริเวณต่าง ๆ ให้กลับคืนสู่ธรรมชาติเดิมโดยเร็ว เพื่อให้เป็นแหล่งทรัพยากรที่อุมสมบูรณ์ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
ด้วยเหตุนี้ ทัพเรือภาคที่ ๑ จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการฟื้นฟูและพัฒนาสภาพแวดล้อมบริเวณเกาะขาม และเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคี กระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพื่อให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ สำหรับกิจกรรม ประกอบด้วย การเก็บขยะชายหาด ดำน้ำเก็บขยะ และปลูกปะการัง (ที่มา : ทรภ.๑)
ทัพเรือภาคที่ ๑ เป็นหน่วยที่รับผิดชอบดูแลอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ซึ่งปัจจุบันสภาพแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ฝั่งทะเลด้านตะวันออกหลายแห่งอยู่ในสภาพเสื่อมโทรมอันเนื่องมาจากการนำทรัพยากรทางทะเลขึ้นมาใช้อย่างฟุ่มเฟือยไม่มีขีดจำกัด และการสร้างมลภาวะในรูปแบบต่าง ๆ ของประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียง การถูกทำลายทั้งจากฝีมือมนุษย์และจากธรรมชาติ ซึ่งทัพเรือภาคที่ ๑ ได้ดำเนินงานในด้านงานอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมทางทะเลอย่างจริงจังและมีผลงานอย่างเป็นรูปธรรม ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลกับสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งหามาตรการและวิธีการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและสภาพแวดล้อมบริเวณต่าง ๆ ให้กลับคืนสู่ธรรมชาติเดิมโดยเร็ว เพื่อให้เป็นแหล่งทรัพยากรที่อุมสมบูรณ์ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืน
ด้วยเหตุนี้ ทัพเรือภาคที่ ๑ จึงได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการฟื้นฟูและพัฒนาสภาพแวดล้อมบริเวณเกาะขาม และเป็นการแสดงออกถึงความสามัคคี กระตุ้นให้เกิดจิตสำนึกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพื่อให้ทุกภาคส่วนตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติ สำหรับกิจกรรม ประกอบด้วย การเก็บขยะชายหาด ดำน้ำเก็บขยะ และปลูกปะการัง (ที่มา : ทรภ.๑)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)