ผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจผสม ๑๕๑
นำกำลังพลเข้าเยี่ยมคำนับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ๒ มีนาคม ๒๕๕๕ เวลา ๐๙.๓๐ น.
พลเรือตรี ธานินทร์ ลิขิตวงศ์ หัวหน้าฝ่ายเสนาธิการ ประจำเสนาธิการทหารเรือ
ในฐานะผู้บัญชาการกองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ เป็นหัวหน้าคณะ
นำกำลังพลในกองบัญชาการกองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ จำนวน ๑๖ นาย เข้าเยี่ยมคำนับ
พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เพื่อรับทราบแนวทางการปฏิบัติงาน
รวมทั้งเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับกำลังพลที่ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการกองเรือเฉพาะกิจผสม
๑๕๑ พร้อมฝ่ายอำนวยการ ก่อนเดินทางไปปฏิบัติงานร่วมกับกองกำลังผสมทางทะเล Combined
Maritime Forces (CMF) ในพื้นที่อ่าวเอเดน ชายฝั่งโซมาเลีย และบริเวณใกล้เคียง
ระหว่างวันที่ ๑๑ มีนาคม ถึงวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ระยะเวลาการปฏิบัติภารกิจประมาณ
๑๒๖ วัน ตามมติคณะรัฐมนตรี โดยจะมีการรับหน้าที่ในวันที่ ๒๙ มีนาคม
๒๕๕๕
การปฏิบัติราชการในครั้งนี้ นอกจากเป็นการเข้าร่วมปฏิบัติงานกับ
CMF ยังเป็นการเสริมสร้างบทบาทความเป็นผู้นำทางทหารในเวทีสากล
โดยจะบังคับบัญชากำลังทางเรือจากชาติต่าง ๆ ที่ร่วมปฏิบัติงาน
เพื่อให้สามารถป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัด
ซึ่งมีผลกระทบต่อเรือสินค้าชาติต่าง ๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรือพาณิชย์ของไทยที่เดินทางผ่านในพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
และขยายบทบาทของกองทัพเรือในเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศด้านความมั่นคงทางทะเลร่วมกับนานาชาติอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง
อีกทั้งได้ร่วมปฏิบัติงานกับกองทัพเรือมิตรประเทศ
กองเรือเฉพาะกิจผสม
๑๕๑ มีภารกิจป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธ
ในพื้นที่ปฏิบัติการอ่าวเอเดน ชายฝั่งโซมาเลีย และบริเวณใกล้เคียง ได้แก่
ราชอาณาจักรบาห์เรน อ่าวโอมาน ทะเลอาระเบียน และตอนเหนือของมหาสมุทรอินเดีย
การประกอบกำลังมีกำลังพลรวม ๒๕ นาย เป็นกำลังพลในส่วนของกองทัพเรือ จำนวน ๑๖ นาย
ปฏิบัติหน้าที่บนเรือธง จำนวน ๑๐ นาย และที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ
สำนักงานกองเรือเฉพาะกิจผสม ๑๕๑ ณ ราชอาณาจักรบาห์เรน (บนบก) จำนวน ๖ นาย
และเป็นกำลังพลจากชาติต่าง ๆ ที่ CMF ให้การสนับสนุน จำนวน ๙ นาย
สำหรับกำลังทางเรือจากกองทัพเรือชาติต่าง ๆ ที่ร่วมปฏิบัติงานใน CMF
และขึ้นการควบคุมทางยุทธการกับ CTF 151 ประกอบด้วย เรือจากกองทัพเรือสหรัฐฯ จำนวน ๒
ลำ เรือจาก กองทัพเรืออังกฤษ จำนวน ๑ ลำ เรือจากกองทัพเรือเกาหลีใต้ จำนวน ๑ ลำ
และเรือจากกองทัพเรือปากีสถาน จำนวน ๑ ลำ โดยมีการปฏิบัติการตามขั้นตอนต่าง ๆ
ประกอบด้วย ขั้นเตรียมการและวางแผนในประเทศ ขั้นการรับส่งหน้าที่
ขั้นการปฏิบัติหน้าที่ และขั้นส่งหน้าที่ สรุปผล และจัดทำรายงานผลการปฏิบัติ (ที่มา
: ยก.ทร.)