ชาวประมงเสี่ยงออกหาปลา แม้คลื่นทะเลจะสูง และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัดสงขลา เฝ้าระวังตามแนวชายฝั่งตลอด ๒๔ ชั่วโมง
เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา จัดเวรยามเฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นซัดถล่มอย่างใกล้ชิด หลังพบว่าคลื่นลมในอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรงต่อเนื่อง โดยเฉพาะชุมชนเก้าเส้ง ริมหาดสมิหลา และชายฝั่งพื้นที่ตำบลเกาะแต้ว อำเภอเมือง ต่อเนื่องจนถึง ตำบลนาทับ อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ถนนเลียบชายหาดถูกคลื่นซัดพังเสียหายระยะทางยาวกว่า ๓๐๐ เมตร ขณะที่นายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา สั่งเจ้าหน้าที่ประจำการตลอด ๒๔ ชั่วโมง เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์คลื่นลมในอ่าวไทย และเตรียมพร้อมออกช่วยเหลือชาวบ้าน
ส่วนที่จังหวัดตรัง เรือประมงขนาดกลาง บ้านหาดยาว ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง ต้องรีบเข้าฝั่ง หลังออกจับปลาทูหลังเขียวได้ประมาณ ๓ ชั่วโมง เนื่องจากทะเลมีคลื่นลมแรง และมีฝนตกลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังสามารถจับปลาทูหลังเขียวได้ลำละ ๑,๐๐๐ กิโลกรัม
ชาวประมงบอกว่า แม้ช่วงนี้จะมีคลื่นลมแรงแต่จำเป็นต้องออกจับปลา เนื่องจากเป็นช่วงที่กระแสน้ำเปลี่ยนทิศ ทำให้ปลาทูหลังเขียวจำนวนมากออกหากินบริเวณใกล้ชายฝั่ง และกลับลงทะเลลึกช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ทำให้ชาวประมงจำนวนมากต้องเสี่ยงจับปลาเพื่อเก็บเงินไว้ช่วงฤดูมรสุม
(ที่มา : สำนักข่าวไทย)